มัจจุราชยามรัตติกาล

โดย อริยตารา

พลวัตร ทำงานเป็นพนักงานขับรถฉุกเฉินที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร เขามีความตั้งใจในการทำงานเป็นอย่างยิ่งและยังเป็นที่รักของผู้ร่วมงานทุกๆคน เพราะพลวัตร หรือ "วัตร" ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่เพื่อนๆเรียกกันเป็นปกติคนนี้ เป็นคนที่สนุกสนาน เฮฮา ปาจิงโกะ ได้ตลอดเวลา เขาไม่เคยแสดงออกถึงความก้าวร้าว หรือเกรี้ยวกราดให้ใครเห็น แถมยังชอบหยอกล้อ และแซวเพื่อนๆจนขำกลิ้งอยู่เสมอ

เย็นวันหนึ่ง วันที่อากาศสดใส ลมพัดเย็นสบาย แสงสีส้มสาดสะท้อนบนท้องฟ้า ก้อนเมฆเป็นปุยดูอบอุ่น เป็นวันที่เขาได้นัดเจอกับเพื่อนเก่าที่ผูกพันกันมานาน เขามีความตั้งใจที่จะไปพบกับเพื่อนคนนี้ให้ได้ เพราะไม่ได้เจอกันมานานร่วมหลายเดือน

เวลานัดพบคือเวลาเที่ยงคืนซึ่งเป็นเวลาที่วัตรมักจะแวะไปเยี่ยมคุยกับเพื่อนของเขา แม้จะเป็นยามวิกาลที่ ทุกๆคนนอนหลับกันหมดแล้ว แต่เขากับเพื่อนก็มักนัดพบกันในเวลาดึกๆเช่นนี้ เพราะจะได้ สามารถคุยกันได้อย่างเป็นอิสระตามประสาเพื่อนเก่าอย่างไม่มีใครรบกวน

พลวัตรมีเวรขับรถในเย็นวันนั้น อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงเวลาที่เขานัดพบกับเพื่อน ก่อนจะลงเวรก็มีเหตุรับแจ้งให้ออกไปรับผู้ป่วยที่ชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง เขาขับรถออกไปทำงานอย่างเคย แม้รถจะติด เขาก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการขับรถพยาบาลเพื่อไปรับและส่งผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที หลังทำงานเคสสุดท้ายของวันนั้นจบ "กิฟ" พยาบาลสาวสวยที่อยู่เวรด้วยกันวันนั้นก็เอ่ยขึ้น
"วัตร เดี๋ยวไปส่งเราที่หอพักพยาบาลได้หรือเปล่า ? นี่ก็ห้าทุ่มแล้ว ไม่อยากกลับเองเลย วัตรสะดวกไหม?"

"ได้สิ เดี๋ยวเที่ยงคืนเรามีนัดเจอกับเพื่อนตรงทางกลับพอดีเลย เดี๋ยวไปส่งให้นะ"

"โห นัดกันตอนเที่ยงคืนมันไม่ดึกไปหน่อยหรอ กิฟเป็นห่วงนะ ลูกเธอก็ยังเล็ก เมียเธอก็จะรออีก นัดกันกลางวันดีกว่าป่ะ"

"ไม่เป็นไรหรอก นัดกันเวลานี้ประจำอยู่แล้ว เนี่ย กะจะซื้อโจ๊กไว้ให้ไอ้ตัวเล็กกับเมียที่บ้านด้วยขากลับ ไว้กินกันพรุ่งนี้เช้า"

"ได้ๆ ตามใจ ไปกันยัง ง่วงนอนเต็มทนละ"

วัตรขี่มอเตอร์ไซค์คันโปรดเพื่อไปส่งเพื่อนพยาบาลด้วยความมีน้ำใจที่เขามักจะหยิบยื่นให้แก่เพื่อนร่วมงานอยู่เป็นประจำ หลังจากส่งเพื่อนที่หอพักเรียบร้อย เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านเพื่อนที่เขานัดไว้

ระหว่างทางที่เขากำลังขับขี่ ได้มีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์อีกคัน มุ่งหน้าสวนทางกับเขา คนขี่นั้นเพิ่งกลับจากการดื่มกินกับเพื่อนๆที่สถานบันเทิงยามค่ำคืน เขาดื่มด่ำกับรสแอลกอฮอล์ไปมากมายแค่ไหนก็จำไม่ได้ แต่ก็ยังขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านด้วยสภาพเมามาย ขาดสติ

ทันใดนั้น รถมอเตอร์ไซค์ของชายหนุ่มเมามายก็วิ่งตรงมายังรถมอเตอร์ไซค์ของวัตรอย่างไม่มีทีท่าที่จะหยุดยั้ง เหมือนพญามัจจุราชที่ตั้งใจมาปลิดชีพของเขาโดยฉับพลัน

"โครมมม!!!!"

เสียงรถมอเตอร์ไซค์สองคันวิ่งเข้าชนกันอย่างจัง ร่างของวัตรลอยละลิ่วไปกระแทกกับขอบทาง แน่นิ่ง ไม่ต่างกับคู่กรณี แต่ยังมีเสียงหายใจรวยระรินจากมัจจุราชยามวิกาลที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ทั่วร่าง

"เรียกรถพยาบาลด่วน มีเหตุมอเตอร์ไซค์ชนกันอยู่บริเวณริมถนน"

ทีมแพทย์และพยาบาลฉุกเฉินจากโรงพยาบาลที่พลวัตรทำงานอยู่ได้ออกทำหน้าที่โดยไม่มีใครรู้เลยว่า ผู้ประสบเหตุที่พวกเขากำลังออกไปช่วยเหลือนั้นคือ พลวัตร เพื่อนร่วมงานที่พวกเขารัก

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ทีมรถพยาบาลก็ได้พบกับร่างอันไร้วิญญาณของวัตร นอนหมดสติอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ที่เขารัก

ทุกคนต่างตกใจ เข่าอ่อน เดินเข้าไปหาร่างของเพื่อนร่วมงานที่บัดนี้แน่นิ่งไม่ไหวติง ใช่แล้ว เขาเสียชีวิตแล้ว แต่คู่กรณียังมีสัญญาณชีพที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่

รถพยาบาลออกจากจุดเกิดเหตุพร้อมกับนำร่างของชายที่มีกลิ่นเหล้าเพื่อส่งโรงพยาบาล เขารอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่ พลวัตร กลับต้องมาจบชีวิตลง จากการเมาแล้วขับ ทั้งๆที่ยังมีครอบครัวที่รัก เพื่อนที่รัก รอคอยเขาอยู่ เขาต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยน้ำมือมัจจุราชขี้เมาด้วยความโศกเศร้า เพียงเพราะความประมาทของใครบางคน

มันถึงเวลาแล้วหรือยัง?

ที่เมื่อเมาแล้ว จะไม่ขับ?

ด้วยความระลึกถึง พี่จ๊ะ
In the momory of P'Ja

Tags:

Navigation